หลายคนมองว่า “การวางแผนการเงิน” เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ในความจริงแล้ว ทุกคนในครอบครัวควรมีบทบาทร่วมกัน ตั้งแต่เด็กเล็กที่เริ่มหยอดกระปุก ไปจนถึงผู้สูงอายุที่เตรียมวางแผนการใช้เงินหลังเกษียณเพราะนิสัยทางการเงินไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มาจากการฝึกฝน สั่งสม และส่งต่อ หากเราเริ่มตั้งแต่วันนี้ และวางแผนให้เหมาะกับช่วงวัยของแต่ละคน ครอบครัวจะเดินทางบนเส้นทางการเงินที่มั่นคง แข็งแรง และมีความสุข ลองมาดูกันว่าในช่วงวัยต่างๆ สามารถวางแผนการเงินได้อย่างไรบ้าง
วัยอนุบาล (3–5 ปี)
เป้าหมาย: สร้างรากฐานนิสัยทางการเงิน
ตัวอย่าง:
ลูกวัย 4 ขวบออยากได้ของเล่นทุกครั้งที่ไปห้าง พ่อแม่ซื้อให้ทุกครั้ง ทำให้ลูกไม่เข้าใจการรอหรือคุณค่าของเงิน
เทคนิค:
✅ใช้ กระปุก 3 ช่อง (เก็บ – ใช้ – แบ่งปัน) พร้อมสติกเกอร์ภาพ เพื่อให้เด็กเข้าใจว่าเงินมีหลายหน้าที่
✅จัดกิจกรรม “ร้านขายของเล่นในบ้าน” โดยให้ลูกใช้เงินที่เก็บซื้อของเล่นเล็ก ๆ ที่พ่อแม่จัดไว้
✅อ่านนิทานเกี่ยวกับการออมเงินแล้วชวนลูกพูดคุยถึงข้อคิดเรื่องความขยัน อดทน
อุปสรรค:
เด็กเล็กยังยึดติดกับความพึงพอใจทันที (instant gratification) ไม่เข้าใจ “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
วิธีเอาชนะ:
ใช้ระบบรางวัลแบบเลื่อนเวลา เช่น เก็บครบ 3 เหรียญ ได้ของเล่น 1 ชิ้นเล็ก ๆ
พ่อแม่ อย่าใช้เงินซื้อความเงียบ อย่างการให้ของเพื่อลดการร้องไห้ จะทำให้ลูกติดนิสัยร้องไห้เมื่ออยากได้ของที่ต้องการ
วัยประถม (6–12 ปี)
เป้าหมาย: เข้าใจค่าเงิน รู้จักวางแผน และรู้ผลของการใช้เงิน
ตัวอย่าง:
เด็กอยากได้การ์ดสะสมราคา 300 บาท พ่อแม่สอนให้เก็บเงินค่าขนมวันละ 10 บาท จนซื้อได้ใน 30 วัน
เทคนิค:
✅ให้เงินค่าขนมรายสัปดาห์ เช่น 100 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขว่าเงินที่เก็บได้ในแต่ละสัปดาห์จะได้โบนัส 10 บาท
✅ฝึกทำสมุดบัญชีบันทึกรายรับ-รายจ่ายสำหรับเด็ก โดยสมุดบัญชีการออม-รายจ่ายง่าย ๆ เหมาะสำหรับเด็ก
✅สร้างเป้าหมายร่วมกันในครอบครัว เช่น ออมเงินไปเที่ยวสวนสัตว์ ลูกต้องช่วยเก็บ 50 บาทของตัวเอง
อุปสรรค:
เด็กอาจอยากตามเพื่อน เช่น ซื้อขนมแพง ๆ หรือของเล่นใหม่ทันที
ขาดแรงจูงใจในการออม
วิธีเอาชนะ:
ให้ลูกมีเป้าหมายที่จับต้องได้ เช่น ออม 500 บาท เพื่อซื้อของที่อยากได้จริง ๆ
ชมเชยหรือมีรางวัลเพิ่มหากลูกทำได้ตามแผน เช่น ทำโปสเตอร์ “นักออมดีเด่น”
วัยมัธยม (13–18 ปี)
เป้าหมาย: ใช้จ่ายเป็น หารายได้เสริม และเข้าใจหลักเบื้องต้นของการบริหารเงิน
ตัวอย่าง:
เด็ก ม.5 อยากซื้อมือถือเครื่องใหม่ จึงรับจ้างพิมพ์งานจากเพื่อนและขายของออนไลน์ ได้เงินบางส่วน และพ่อแม่ออกให้บางส่วน
เทคนิค:
✅ให้โอกาสทำงานพิเศษ เช่น สอนการบ้านเด็กประถม ขายขนมในโรงเรียน หรือรับพิมพ์รายงาน
✅จัดให้มี เงินออมเป้าหมาย และให้ลูกเลือกวิธีการสะสมเอง
✅สอนเรื่อง ความแตกต่างของรายได้-ค่าใช้จ่าย-กำไร จากธุรกิจเล็ก ๆ เช่น ขายของมือสองใน IG
อุปสรรค:
ความอยากได้ตามกระแส (มือถือใหม่, รองเท้ารุ่นฮิต)
ใช้เงินเร็ว ไม่มีระบบจัดการ
วิธีเอาชนะ:
ฝึกลูก เปรียบเทียบราคา ก่อนซื้อ (เช่น ค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ก่อน)
ทดลองให้รับผิดชอบงบประมาณกิจกรรมบางอย่าง เช่น จัดงานวันเกิดโดยให้วงเงินจำกัด
วัยเริ่มต้นทำงาน (22–30 ปี)
เป้าหมาย: ตั้งหลัก สร้างวินัยออมเงิน และลงทุนระยะยาว
ตัวอย่าง:
มนุษย์เงินเดือนวัย 25 ปี มีรายได้ 20,000 บาท ใช้สูตร 50-30-20 (ค่าใช้จ่ายจำเป็น-ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุข-เงินออมและลงทุน) โดยเริ่มลงทุนในกองทุนรวมเดือนละ 2,000 บาท
เทคนิค:
✅ใช้ สูตร 50-30-20 หรือ 70-20-10 หากรายได้น้อย
✅เปิดบัญชีออม – ฉุกเฉิน – ลงทุน แยกกันชัดเจน
✅สมัครประกันชีวิต+สุขภาพเบื้องต้น เพื่อป้องกันรายจ่ายไม่คาดคิด
✅ศึกษาเครื่องมือการลงทุนแบบเข้าใจง่าย เช่น กองทุน SSF, กองทุนดัชนี (index fund)
อุปสรรค:
ช้อปตามอารมณ์, ใช้บัตรเครดิตมากเกินไป
ขาดเป้าหมายระยะกลาง-ยาว
วิธีเอาชนะ:
จัดทำ "บอร์ดเป้าหมายชีวิต" เช่น เก็บเงินดาวน์คอนโด 5 ปี
ใช้แอปช่วยวางแผนเช่น SET Happy Money
วัยทำงานก่อนเกษียณ (31–54 ปี)
เป้าหมาย: บริหารภาระครอบครัว พร้อมวางแผนเกษียณและดูแลพ่อแม่
ตัวอย่าง:
ครอบครัวมีลูก 2 คน มีหนี้บ้าน ผ่อนรถ และค่าเล่าเรียน จึงเริ่มวางแผนเก็บเงินผ่าน RMF และทำประกันการศึกษาให้ลูก
เทคนิค:
✅วางแผนงบประมาณครอบครัวประจำเดือนแบบตาราง
✅ลงทุนระยะยาว (RMF, หุ้นปันผล) พร้อมประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
✅ทำแผนการศึกษาของบุตร โดยเลือกลงทุนในกองทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บไว้เป็นค่าการศึกษาของบุตร
✅จัดระบบหนี้ดี-หนี้เสีย และวางแผนปลดหนี้ก่อนเกษียณ
อุปสรรค:
รายจ่ายหลายทาง – ลูก, บ้าน, พ่อแม่
ไม่มีเวลาวางแผน
วิธีเอาชนะ:
ใช้ ไฟล์ Excel หรือแอปครอบครัว เช่น “Spendee” หรือ “Goodbudget” เป็นตัวช่วยในการวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัว
จัดประชุมครอบครัวทุกไตรมาส เพื่อตรวจแผนการเงิน
วัยเกษียณ (55 ปีขึ้นไป)
เป้าหมาย: ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงโดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน
ตัวอย่าง:
ผู้เกษียณอายุ 60 ปี ใช้เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + เงินสะสม RMF + ค่าเช่าบ้านหลังเล็ก และแบ่งเงินใช้รายเดือน
เทคนิค:
✅วางแผนถอนเงิน เช่น ถอนจากกองทุน 5% ต่อปี
✅จัดพอร์ตปลอดภัย เช่น กองทุนตราสารหนี้, พันธบัตร
✅ทำบัญชีรายจ่ายรายเดือนและปรับไลฟ์สไตล์ให้พอเพียง
✅จัดทำพินัยกรรมและแผนมรดกอย่างถูกต้อง
อุปสรรค:
ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูง
เศรษฐกิจผันผวน
วิธีเอาชนะ:
สมัคร สิทธิบัตรทอง, บัตรผู้สูงอายุ, โครงการของรัฐ
หากยังแข็งแรงสามารถหารายได้เสริม เช่น เปิดคลาสงานฝีมือหรือปลูกผักขาย
การวางแผนการเงินไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอให้มีเงินเยอะถึงจะเริ่มได้ แต่คือการรู้จักบริหารสิ่งที่มีให้เกิดคุณค่าในแต่ละช่วงชีวิต ครอบครัวที่วางแผนร่วมกันตั้งแต่วันนี้ จะสามารถสร้างอนาคตที่มั่นคง ทั้งในยามสุข ยามวิกฤต และยามเกษียณ อย่าลืมว่า “เงิน” คือเครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมาย แต่การเข้าใจและใช้เครื่องมืออย่างชาญฉลาดจะทำให้ทุกเป้าหมายของครอบครัวไปถึงได้จริง หากสนใจวางแผนการเงินสำหรับครอบครัว สามารถอ่านหนังสือได้ที่ห้องสมุดมารวย