ที่มา : นิตยสาร Money & Wealth 

เรื่องโดย : สกาว สำราญคง, CFP

--------------------------------------------------------

การออมเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน แต่หลายครั้งก็พบว่า เงินออมถูกนำออกไปใช้ หรือเงินออมลดค่าลงอย่างไม่รู้ตัว สาเหตุจากปัจจัย 2 ปัจจัย นั่นคือปัจจัยภายใน และ ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายในจะเป็นพฤติกรรมหรือแนวความคิดของตัวเราเอง เราสามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนได้ ได้แก่

1. นำเงินไปลงทุนในเรื่องที่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจ อยากได้ผลตอบแทนสูง แต่ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง หรือโอกาสที่จะสูญเสียเงิน เช่น แชร์ลูกโซ่หรือถูกชวนไปลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีมูลค่า แต่จะนำผลตอบแทนมาจูงใจ สุดท้ายอาจต้องเสียเงินก้อนใหญ่ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน

2. ทัศนคติการเก็บออม การออมเงินผ่านธนาคารประเภทออมทรัพย์จะเป็นการออมที่หลายคนคุ้นเคย แต่ลืมคำนึงถึงว่า หากดอกเบี้ยรวมทั้งปีเกิน 20,000 บาท ก็ต้องเสียภาษีซึ่งจะทำให้เงินส่วนนี้หายไป หากปรับเปลี่ยนมุมมอง โดยการหาช่องทางการลงทุนแบบอื่นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย เช่น ฝากออมทรัพย์พิเศษ ฝากประจำปลอดภาษี สลากออมสิน หรือกองทุนรวมที่ไม่มีเงินปันผล เป็นต้น

3. พฤติกรรมการใช้จ่ายเกินจำเป็น การซื้อตามความอยาก มักเป็นสาเหตุทำให้เงินออมลดลง โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตที่เป็นการใช้เงินในอนาคต หากไม่จัดระเบียบรายจ่ายให้ดีอาจใช้จนเพลิน จึงควรทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อจะได้เห็นว่ามีเงินไหลออกไปกับรายจ่ายอะไรบ้าง และต้องลดรายจ่ายอย่างไรให้มีเงินออมมากขึ้น

ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อเงินออม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่สามารถป้องกันหรือหาแนวทางแก้ไขได้ ได้แก่

1. เงินเฟ้อ จากข้อมูลสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยย้อนหลัง 15 ปี อยู่ที่ 2.09% ต่อปี ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ 0.88% ต่อปี ดังนั้น เงินฝากออมทรัพย์จึงโตไม่ทันเงินเฟ้อ จึงควรแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ

2. อุบัติเหตุ ชีวิตคนเราอยู่บนความไม่แน่นอน เมื่อเกิดแล้วย่อมกระทบกับเงินเก็บออม เพื่อนำไปใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล ยิ่งถ้ากระทบกับบุคคลอื่น ก็ยิ่งต้องนำเงินออมออกมาเป็นค่าเยียวยา ชดใช้ความเสียหายให้อีกฝ่าย ในกรณีนี้ บรรเทาได้ด้วยการทำประกันภัย เพื่อให้บริษัทรับประกันรับความเสี่ยงไปแทน

3. ความเจ็บป่วยหรือโรคร้ายแรง เป็นสิ่งที่ควบคุมยาก เมื่อเป็นแล้วก็จำเป็นต้องรักษา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะโรคร้ายแรง แม้โอกาสเกิดน้อยครั้งแต่เมื่อเกิดแล้วย่อมกระทบกับเงินออม แต่การทำประกันสามารถอุดความเสี่ยงนั้นได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แม้เงินออมจะหายไปกับปัจจัยทั้งภายในและภายนอก แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเก็บก่อนใช้ วางเงินไว้ถูกที่ ทำประกันเพื่อจัดการความเสี่ยงก็จะช่วยให้เงินออมยังคงอยู่และเพิ่มมูลค่าเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวัง