ที่มา : นิตยสาร Money & Wealth 

เรื่องโดย : ภาดร สุขสวัสดิ์ CFP

--------------------------------------------------------

ใกล้จะถึงปลายปีกันแล้ว เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะวางแผนซื้อของที่ตัวเองอยากได้ไว้บ้างแล้ว เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเอง ในเมื่อทำงานเหนื่อยมาทั้งปี ก็ย่อมมีบ้างที่อยากจะให้รางวัลกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็ก หรือชิ้นใหญ่ แต่ถ้าต้องการที่จะซื้อของชิ้นใหญ่เราควรไตร่ตรองกันซักนิดว่าคุ้มค่ากับที่ซื้อมาไหม และต้องไม่กระทบกระเทือนเป็นภาระให้กับเราในอนาคตด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อของจะต้องมี Checklist กันหน่อย เพื่อจะได้ไม่มานั่งเสียใจภายหลัง

1. จำเป็นหรือแค่อยากได้

สิ่งแรกที่เราต้องคิดคือ เป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆหรือไม่ เช่น อยากซื้อรถ เพราะต้องใช้ขับเดินทางไปทำงานตจว.บ่อยครั้ง หรืออยากได้โทรศัพท์ใหม่ เพราะกำลังมี Promotion ดีๆให้นำโทรศัพท์เครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่แล้วได้ส่วนลด ในตัวอย่างที่กล่าวมาเราสามารถเก็บเงินเพื่อซิ้อของที่กล่าวมาได้ แต่ควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่จำเป็นก่อน แล้วถ้าเราพอมีเงินเหลือก็ค่อยเติมเต็มสิ่งที่ต้องการในลำดับต่อไป

2. เก็บให้ได้ก่อนคิดจะซื้อ

ถ้าไม่อยากจะเป็นหนี้ก้อนโต เราควรต้องเก็บเงินก้อนให้ได้ก่อน โดยไม่ต้องรู้ว่าเป้าหมายที่เราอยากได้จะมีมูลค่ากี่บาท แล้วหักเงินออมในแต่ละเดือนเข้าไปในเงินฝากในบัญชีที่เราเปิดขึ้นมาใหม่เพื่อเป้าหมายที่เราอยากได้ทุกๆเดือน แล้วถ้าหากเดือนไหนเราพอจะมีเงินก้อนก็เอาไปฝากเพิ่ม เพื่อให้ถึงเป้าหมายเงินเก็บที่เราตั้งใจไว้ได้เร็วขึ้น

3. คิดก่อนรูดบัตรเครดิต

สำหรับการซื้อของชิ้นใหญ่ บางครั้งจะมีทางเลือกหลายทาง ให้เราสามารถใช้บัตรเครดิตในการรูดซื้อสิ้นค้าได้ และก็สามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนได้ในกรณีที่บัตรนั้นมี Promotion ร่วมรายการกับสินค้าที่เราซื้อ อาจจะมีดอกเบี้ยต่ำ หรือไม่มีดอกเบี้ยเลย แต่ในกรณีที่บัตรไม่มี Promotion ร่วมกับรายการสินค้า ก็จะมีดอกเบี้ย ก็ต้องตัดสินใจให้ดีก่อนว่ารายจ่ายรายเดือนจะไม่มีผลกระทบ กับค่าใช้จ่ายรายเดือนของเรา และถ้ามีดอกเบี้ยเราก็ควร คำณวนดอกเบี้ยนั้นเข้าไปกับมูลค่าสินค้าด้วย เพื่อให้เห็นว่าราคารวมดอกเบี้ยแล้วเป็นราคาที่เรารับได้หรือไม่

4. ซื้อทั้งทีต้องคุ้มค่าที่สุด

การซื้อสินค้าในปัจจุบันนี้มีหลายช่องทางให้เลือกซื้อ ทั้งซื้อตามร้านค้า ตามห้างสรรพสินค้า หรือช่องทาง Online ซึ่งราคาและ Promotion ก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนเลือกซื้อสินค้าควรเลือกหาสิ่งที่คุ้มค่า ควรเปรียบเทียบหลายร้าน เพื่อให้ได้ราคาที่เราพอใจมากที่สุด การซื้อของชิ้นใหญ่ทั้งทีควรหาข้อมูลให้ดีก่อนที่เงินจากออกจากกระเป๋าของเราไป

5.ต้องมีประกัน

การรับประกันสินค้าหลังจากที่เราซื้อสินค้า เป็นการทำให้เราแน่ใจว่า สิ่งของเราได้มานั้นมีคุณภาพดี หากมีการชำรุดหรือเสียหายหลังจากซื้อมาแล้ว สามารถเปลี่ยนหรือรับคืนได้ การรับประกันถือว่าเป็นมูลค่าเพิ่มในสินค้านั้นๆ

การใช้จ่ายเงินถ้าเราไม่ได้ใช้จ่ายด้วยสมอง ซักวันนึงเงินที่เราเก็บมาตลอดชีวิต ก็จะหมดไปโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว